วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2554

ข้อดี และข้อเสีย ของ Notebook แต่ละยีห้อเปนยังไง!

Asus
เด่นเรื่องการรับประกัน จะยาวนานกว่ายี่ห้ออื่น
เป็นผู้ผลิต Mainboard ชื่อดัง การออกแบบจัดวางอุปกรณ์ภายในทำได้ดี


ปัจจุบันได้เริ่มผลิต Notebook บางรุ่นที่มีความโดดเด่นเรื่องการ์ดจอ เช่น รุ่น F8SG
ข้อด้อย Optical Drive และ แกนพับจอในบางรุ่นเสียง่าย


Acer
เด่นเรื่อง Spec ต่อราคา
คือถ้าราคาเท่ากัน จะได้ Spec เครื่องที่สูงกว่า
หรือ Spec ที่เท่ากันจะราคาถูกกว่ายี่ห้ออื่น
รูปทรงก็ดูสวยงาม โดนใจวัยรุ่น




จึงมียอดขายเป็นอันดับ 1 ในไทย
หลายท่านที่ใช้หลักการซื้อแบบเทียบ Spec แล้วซื้อตัวที่ถูกกว่า
ก็จะได้ยี่ห้อนี้
ข้อด้อยมักมีปัญหาที่หลากหลายหลังนำมาใช้ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะราคาที่ถูกกว่ายี่ห้ออื่นก็เป็นได้


Toshiba
เป็นยี่ห้อแรกๆ ที่ร่วมบุกเบิกการผลิต Notebook
เด่นเรื่องความทนทาน และความเสถียรของ Software ยี่ห้อนี้จึงมักขายพร้อม Windows ลิขสิทธิ์ (แม้ในรุ่นราคาถูก)
เมื่อก่อนเน้นขายตลาดบนราคาเฉียดแสน




ตอนนี้เปิดตลาดระดับล่างควบคู่กัน ด้วยราคา 2-3 หมื่นบาทก็มีขาย
เทียบ Spec. แล้วดูเหมือนจะแพง แต่ถ้าคิดราคา Software ลิขสิทธิ์แบบ OEM ราว 2-3 พันบาทก็จะพอๆ กับยี่ห้ออื่น
ข้อ ด้อย Notebook ค่ายนี้จะไม่เน้นเรื่องการ์ดจอ จะใช้การ์ดจอรุ่นเทียบเท่า Onboard ทั่วไป เช่น GMA X3100 (ยกเว้นรุ่น Qosmio AV notebook)


Lenovo
ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่สัญชาติจีน
มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 4 ของโลกรองจาก HP, Dell, Acer
เดิมเป็นผู้ผลิต Notebook และ PC ให้กับ IBM




ตอนหลังซื้อกิจการส่วน PC/Notebook มาทำตลาดเอง
เป็น Notebook ที่เน้นความทนทาน โดยเฉพาะรุ่น ThinkPad
ภายหลังออกเป็นรุ่น IdeaPad
ข้อด้อยการออกแบบภายนอกยังคงมีรูปลักษณ์ที่รับมาจาก IBM มาก
รูปทรงอาจเชยๆ ไม่โดนใจวัยรุ่น


HP/Compaq (ค่ายเดียวกัน)
ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของโลก
ส่วนแบ่งการตลาดมียอดขายเป็นอันดับ 1 ของโลก
ทำตลาดระดับบนด้วย Notebook HP รุ่น Pavillion


ขายระดับล่างด้วยยี่ห้อ Compaq
เป็น Notebook ที่ให้ประสิทธิภาพในการใช้งานได้ดีมากยี่ห้อหนึ่ง
มีศูนย์บริการค่อนข้างครอบคลุมทั่วไทย
ส่วนรูปทรงการออกแบบเป็นอเมริกันจ๋า อาจไม่ค่อยโดนใจวัยรุ่นไทย


BenQ
เคยเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ร่วมกับ Acer
ในต่างประเทศจะมีชื่อเสียงมาก่อนไทย
ในไทยพึ่งเริ่มเข้าทำตลาด ด้วย Notebook ที่เน้นเรื่องการ์ดจอ
เช่น รุ่น Joybook S41

และการออกแบบภายนอกที่ค่อนข้างโดนใจวัยรุ่น
แต่หลายท่านจะบ่นเรื่องต้องรอนานเมื่อเคลมประกัน (บางชิ้น เช่น Mainboard ต้องสั่งจากนอก)
ซึ่งอาจจะเกิดจากการ Support/Service ยังไม่เข้าที่เข้าทางจากการเริ่มเข้าทำตลาดใหม่ๆ ในประเทศไทย


Sony
เป็น Notebook สัญชาติญี่ปุ่น
ที่เน้นทำตลาดระดับบนด้วยการออกแบบที่สวยงาม

Spec เครื่องที่สูง
แต่ราคาก็สูงตามไปด้วย
ช่วงหลังเปิดตลาดระดับกลางด้วย Notebook ระดับราคาประมาณ 4-5 หมื่นบาทด้วย


Fujitsu
เป็น Notebook สัญชาติญี่ปุ่นเช่นกัน
ใช้สีเทาเงินเป็นเอกลักษณ์


เป็น Notebook ที่จับตลาดระดับบนเช่นเดียวกับ Sony
เน้นการออกแบบ และ Spec ที่สูง
ราคาก็สูงตามไปด้วยเช่นกัน


Dell
เป็น Notebook ที่มีวิธีการจำหน่ายแบบแตกต่างจากยี่ห้ออื่น
ไม่มีขายตามร้านจำหน่ายทั่วไป ถ้าเห็นมีขายแสดงว่าร้านนั้นโทรฯ สั่งซื้อจาก Dell มาอีกที
ถ้าต้องการสั่งซื้อเราจะโทรฯ ติดต่อกับ Sale เพื่อกำหนด Spec ตามที่เราต้องการ
หลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการผลิตและจัดส่ง


Notebook ของ Dell เด่นเรื่องความทนทานและการบริการ
ถ้าเครื่องมีปัญหาช่างจาก Dell จะให้บริการแบบ Onsite Service (บริการถึงบ้าน/สำนักงานในวันทำการถัดไป)
แต่ลักษณะการขายแบบนี้คนไทยเราไม่ค่อยคุ้นเคย
และไม่เห็นสินค้าก่อนการโอนจ่ายเงิน
ดังนั้นอาจได้เครื่องที่รูปทรงไม่ถูกใจได้
(สำหรับเบอร์โทรสั่งซื้อสินค้าจากบริษัท Dell ได้แก่ 1800-060-061 ​จันทร์​-​ศุกร์​ 8.00-17.00 ​น.)


SVOA ,Atec
เป็น Notebook ที่เรียกว่า Local Brand ครับ หรือเป็นยี่ห้อของไทย
SVOA เป็นของบริษัทสหวิริยาโอเอซึ่งเดิมเป็นบริษัทตัวแทนจำหน่ายคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อ Acer เมื่อ Acer เป็นที่นิยมในไทยบริษัทแม่เลยเข้ามาทำตลาดเอง สหวิริยาโอเอจึงหันมาทำตลาดคอมพิวเตอร์ในชื่อของตนเองคือ SVOA






เป็น Notebook ที่เมื่อเทียบ Spec/ราคา ก็คล้ายๆ Acer คือ Spec เท่ากันราคาจะถูกกว่า หรือ งบเท่ากันจะได้ Spec ที่ดีกว่า เป็น Notebook ที่เน้นในเรื่องการออกแบบรูปลักษณ์
แต่ในการนำมาใช้งานก็เห็นผู้ใช้บ่นกันในเรื่องการบริการหลังการขายพอสมควรนะครับ


Mac Book

จากค่าย Apple คอมพิวเตอร์ที่มีความโดดเด่นเรื่องการใช้งานด้าน Graphic
และการออกแบบที่ถือว่าอยู่ในขั้นเทพ
ผลิตภัณฑ์จากค่ายนี้การออกแบบจะใส่ใจทุกรายละเอียด
จึงได้ผลิตภัณฑ์ที่มีความสวยงามลงตัว






สะดวกในการใช้งาน(ถ้าคุ้นเคยแล้ว)
ปัจจุบันได้ใช้ CPU จาก Intel ในผลิตภัณฑ์ ทำให้สามารถลง Windows และ OS X Leopard ในเครื่องเดียวกันได้
ผู้ใช้ Mac Book จะดูภาพลักษณ์ดี ไวรัสไม่ค่อยกวนใจ
แต่ถ้าเครื่องมีปัญหาก็อาจมองหาผู้รู้ยากหน่อย รวมทั้งราคาก็ยังถือว่าสูงกว่า PC Notebook อยู่บ้างครับ



ที่มา
http://www.vcharkarn.com/

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=01-2010&date=17&group=22&gblog=97

ไทยติดโผอันดับ 7 ประเทศทุจริตมากที่สุด

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ผลสำรวจของบริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจในฮ่องกง ระบุ ไทยอยู่ในอันดับที่ 7 ของประเทศและเขตเศรษฐกิจที่ทุจริตมากที่สุด ในเอเชียแปซิฟิก ส่วนอันดับ 1 คือ กัมพูชา

เว็บไซต์อินเดียนเอ็กซ์เพรสส์ของอินเดีย รายงานว่า บริษัทที่ปรึกษาความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจ หรือ เพิร์ก ได้จัดอันดับการทุจริต ใน 16 ประเทศ และเขตเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก โดยให้คะแนนทุจริตน้อยที่สุดจาก 0 คะแนน จนถึง ทุจริตมากที่สุด 10 คะแนน ปรากฏดังนี้

ประเทศที่มีคะแนนทุจริตอันดับ 1 คือ กัมพูชา ได้คะแนน 9.27

ประเทศที่มีคะแนนทุจริตอันดับ 2 คือ อินโดนีเซีย ได้คะแนน 9.25

ประเทศที่มีคะแนนทุจริตอันดับ 3 คือ ฟิลิปปินส์ ได้คะแนน 8.9

ประเทศที่มีคะแนนทุจริตอันดับ 4 คือ อินเดีย ได้คะแนน 8.67

ประเทศที่มีคะแนนทุจริตอันดับ 5 คือ เวียดนาม ได้คะแนน 8.3

ประเทศที่มีคะแนนทุจริตอันดับ 6 คือ จีน ได้คะแนน 7.93

ประเทศที่มีคะแนนทุจริตอันดับ 7 คือ ไทย ได้คะแนน 7.55

ประเทศที่มีคะแนนทุจริตอันดับ 8 คือ เกาหลีใต้ ได้คะแนน 5.90

ประเทศที่มีคะแนนทุจริตอันดับ 9 คือ มาเลเซีย ได้คะแนน 5.70

ประเทศที่มีคะแนนทุจริตอันดับ 10 คือ ไต้หวัน ได้คะแนน 5.65

ประเทศที่มีคะแนนทุจริตอันดับ 11 คือ มาเก๊า ได้คะแนน 4.68

ประเทศที่มีคะแนนทุจริตอันดับ 12 คือ สหรัฐฯ ได้คะแนน 2.39

ประเทศที่มีคะแนนทุจริตอันดับ 13 คือ ญีป่น ได้คะแนน 1.90

ประเทศที่มีคะแนนทุจริตอันดับ 14 คือ ออสเตรเลีย ได้คะแนน 1.39

ประเทศที่มีคะแนนทุจริตอันดับ 15 คือ ฮ่องกง ได้คะแนน 1.10

ประเทศที่มีคะแนนทุจริตอันดับ 16 คือ สิงคโปร์ ได้คะแนน 0.37



ที่มา http://hilight.kapook.com/view/57589

18 สุดยอดเรื่องอำในวัน April Fool's Day

อันดับ 1: ฤดูเก็บเกี่ยวสปาเก็ตตี้ที่สวิส(The Swiss Spaghetti Harvest)

1957: สำนักข่าว BBC เผย แพร่ภาพ ทัศนีย์ภาพยุโรปในฤดูหนาวและชาวไร่คนหนึ่งกำลังมีความสุขในการดึงสปาเกตตี้ ลงจากต้นไม้(ประมาณว่าเหมือนถั่วฝักยาว) พร้อมประกาศว่าชาวไร่ประเทศสวิคเซอร์แลนด์ประสบความสำเร็จในการปลูกต้นสปาเก ตตี้แล้วจ้า ต่อไปนี้เราไม่ต้องง้อไข่อีกต่อไป เพราะต้นสปาเกตตี้นี้ออกผลเป็นสปาเกตตี้ ยาวๆ น่ากินมากๆ พร้อมกันนี้ BBC ได้กล่าวส่งท้ายว่า เส้นสปาเก็ตตี้นี้เหมาะแก่การกินกับซอสมะเขื่อเทศเป็นที่ชู๊ด!!

(อัตราความเชื่อ 1 เชื่อก็บ้าแล้ว แต่ผู้ชมต่างพากันโทรศัพท์ไปที่สถานีด้วยความอยากรู้วิธีปลูกต้นสปาเก็ตตี้เองบ้าง)


อันดับ 2: Sidd Finch

1985: Sports Illustrated นิตรสารกีฬาลลงภาพ นักกีฬาคนหนึ่งชื่อ Sidd Finch เขาสามารถขว้างเบสบอลไปไกลกว่า 168 mph และพุ่งแหลมไปไกลกว่า 65 mph โดยนายคนนั้นให้สัมภาษณ์ว่าตอนแรกนั้นเขาเล่นกีฬาไม่เอาไหนเลย จนกระทั้งเขาไปฝึกวิทยายุทธ์ที่วัดธิเบต จนเขามีพรสวรรค์ดังกล่าว


(อัตราความเชื่อ 5 ถ้านายบอกว่าไปฝึกที่วัดวัดเส้าหลินจะน่าเชื่อกว่า)


อันดับ 3: แปลงสี TV แบบเร่งด่วน ( Instant Color TV)

1962: บาง ครั้งบางทีเรื่องโกหกก็กลายเป็นเรื่องจริงเหมือนกัน เมื่อห้าสิบปีที่แล้ว ทีวียังเป็นข่าวดำอยู่ และประเทศสวีเดนก็มีทีวีเพียงช่องเดียวเท่านั้น และก็ออกข่าวเรื่อง นาย Kjell Stensson ผู้วชาญแห่งสถานีดังกล่าวได้ประกาศว่า ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ของกระผมสามารถทำให้สถานีโทรทัศน์ของเราแปลงภาพเป็นสีๆ ได้แล้วนะครับท่าน โดยใช้วิธีง่ายๆ โดยการดึงถุงน่องไนลอนคลุม!! จอโทรทัศน์ ผู้ชมนับแสนทำตามโดยไม่รอช้า(เหอๆ มุกมันใช้ได้)


(อัตราความเชื่อ 10 เนื่องจากว่ามีทางเป็นไปได้ และในอนาคตต่อมาทีวีก็มีช่องสีจริง!!)


อันดับ 4: The Taco Liberty Bell


1996: บริษัทกระดิ่ง The Taco Bell ประกาศเชิญชวนให้ประชาชนชื้อกระดิ่งอิสรภาพและเปลี่ยนชื่อเป็นกระดิงอิสรภาพ Taco เพื่อลดหนี้สินของประเทศ และขอให้ผูกกระดิ่งไว้ที่บ้านเพื่อแสดงความโกรธแค้นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์แห่งชาติในฟิลาเดลเฟีย


(อัตราความเชื่อ 6 ผลคือประชาชนแห่มาซื้อ เจ้าของกระดิ่งรวยกันไป)


อันดับ 5: San Serriffe


1977: หนังสือพิมพ์อังกฤษ The Guardian ได้จัดโปรแกรทท่องเที่ยว เป็นสาธารณเล็กๆ แห่งหนึ่งชื่อ ซองเซริฟฟ์ (San Serriffe ) ประกอบด้วยเกาะต่างๆรูปร่างเหมือนเครื่องหมายอัฒภาค (;) เป็นประเทศที่ตั้งในมหาสมุทรอินเดีย โดยมีสองเกาะ คือเกาะใหญ่ชื่ออัปเพอร์แคส (ตัวพิมพ์ใหญ่) และโลเวอร์แคส (ตัวพิมพ์เล็ก) ทั้งๆที่ความจริง มันไม่มีประเทศนี้บนโลกหรอกนะ


(อัตราความเชื่อ 7 เรื่องนี้โดนหลอกอย่างกว้างขวาง)



อันดับ 6: นิกสันเพื่อประชาชน (Nixon for President)
1992: วิทยุสาธารณะแห่งชาติ Talk of the Nation แจ้งข่าวว่า ริชาร์ด นิกสัน(Richard Nixon)ได้ทำให้ประชาชนชาวอเมริกันต้องประหลาดใจ เมื่อเขาประกาศว่าเขาจะกลับมาเป็นประธานาธิปดีสหรัฐอีกครั้ง พร้อมเปิดคำขวัญรณรงค์ใหม่ว่า "I didn't do anything wrong, and I won't do it again.(ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดและฉันจะไม่ทำมันอีกแล้ว)" (ล้อนิกสันในเรื่องคดีวอเตอร์เกต) แถมมีคลิปเสียงของนิกสันซะด้วย ภายหลังก็มีการประกาศว่านี้เป็นการล้อเล่นวันเอพริลฟูลและเสียงของนิกสันนั้นเป็นเสียงของนักแสดงตลกคนหนึ่งปลอมเสียงไว้



(อัตราความเชื่อ 10 เนื่องจากอเมริกาหน่ายนิกสันเต็มแก่ เจอข่าวแบบนี้ก็เชื่อแหละ!!)




อันดับ 7: การเปลี่ยนแปลงค่า Pi ที่อาบาม่า (Alabama Changes the Value of Pi)

1998: หนังสือพิมพ์ New Mexicans for Science and Reason(เป็นหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับข่าววิทยาศาสตร์) ได้ลงข่าวว่ารัฐ Alabama มีออกเสียงโหวตให้เปลี่ยนแปลงค่า Pi จาก 3.14157 เป็น 3.0 ตามคัมภีร์ไบเบิลในศาสนาคริสต์ บทความดังกล่าวที่ว่าเริ่มต้นจากอินเตอร์เน็ตและมันไม่ช้ามันก็แพร่อย่างรวดเร็ว จนทางการของ Alabama ต้องรับโทรศัพท์อย่างหูดับปากไหม้โดยคนที่โทรมาคัดค้านบัญญัติกฎหมายเป็น ร้อยๆ ราย ก่อนที่จะรู้ว่านี้เป็นการล้อเล่นในวันเอพริลฟูลจ้า(ฮ่าๆ) โดยเจ้าของเรื่องโกหกนี้เป็นนักฟิสิกส์คนหนึ่งที่ชื่อว่า Mark Boslough



(อัตราความเชื่อ5 เนื่องจากผมไม่รู้จักค่า Pi คืออะไร ใครไม่รู้ก็ไม่เดือดร้อนอะไร เหอๆ)



อันดับ8:พิเศษสำหรับคนถนัดมือซ้าย (The Left-Handed Whopper)

1998: กษัตริย์เบอร์เกอร์(เบอร์เกอร์คิง-Burger King)ได้ลงโฆษณาทั่วอเมริกาว่า ท่านทั้งหลายจงลิ้มลองเมนูใหม่ของเรา ""The Left-Handed Whopper"หรือเบอร์เกอร์สำหรับคนถนัดซ้าย เราได้ออกแบบเบอร์เกอร์เพื่อชาวอเมริที่ถนัดมือซ้ายกว่า 32 ล้านคน เบอร์เกอร์ของเรานั้นมีองค์ประกอบเหมือนเดิมทุกอย่าง(ผักกระหล่ำ, มะเขือเทศ,ชีส ,เนื้อX แต่พิเศษคือทางเราได้ใช้เครื่องปรุงที่มีประโยชน์สำหรับคนถนัดซ้ายเท่านั้น (วันต่อมากษัตริย์เบอร์เกอร์ก็ออกข่าวว่านี้เป็นการล้อเล่นในวันเอพริลฟูล แต่กระนั้นลูกค้าจำนวนมากต่างเข้ามาในร้านและสอบถามเมนูนี้อย่างจ้าระหวั่น จนข่าวหนังสือพิมพ์ออกข่าวว่า "มีลูกค้าหลายรายเรียกร้องให้กษัตริย์เบอร์เกอร์ออกเมนูสำหรับคนถนัดขวาบ้าง ได้ไหม น้อยใจแล้วนะตัวเอง"

(อัตราความเชื่อ 2 ยังอุตส่าห์มีคนเชื่อเนอะ แต่เรื่องถนัดซ้าย-ขวานั้นก็ไม่เข้าใครออกใคร)



อันดับ9: ตัวเจาะน้ำแข็ง(Hotheaded Naked Ice Borers)

1995: นิตยสาร Discover Magazine ลงข่าวว่านักสัตวชีววิทยา Dr. Aprile Pazzo ได้ค้นพบสัตว์ชนิดใหม่ในทวีปแอนตาร์กติก(ขั้วโลกใต้) และตั้งชื่อมันว่า Hotheaded Naked Ice Borers เป็นสัตว์ประหลาดดุร้ายที่มีกะโหลกศีรษะคล้ายแผ่นจานที่มีความร้อนสูงมา เนื่องจากมีเส้นเลือดไปไหลเวียนจำนวนมาก จนสามารถใช้ความร้อนจากศีรษะของมันขุดเจาะ หลอมหลายหิมะหรือน้ำแข็งได้อย่างสบายๆ โดยสัตว์ตัวนี้ใช้ความสามารถนี้ในการล่านกเพนกวินเป็นอาหาร และDr. Aprile Pazzo ยังกล่าวอีกว่าสัตว์ประหลาดชนิดนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปอย่างลึก ลับของนักสำรวจทวีปแอนตาร์กติก Philippe Poisson ในปี 1837 "มันเจาะรูน้ำแข็งเพื่อล่อเขาให้ตก เพราะมันคงคิดว่าเขาเป็นนกเพนกวินนะ " Dr. Aprile กล่าวส่งท้าย


(อัตราความเชื่อ 6 เกือบเชื่อแล้ว มาเสียตรงเรื่อง Philippe Poisson นี้แหละ)


อันดับ 10: แรงดึงดูดลดลงเพราะการจัดเรียงของดาวนพเคราะห์ (Planetary Alignment Decreases Gravity)

1976: นักดาราศาสตร์ชาวอังกฤษ Patrick Moore ได้ประกาศผ่านวิทยุ BBC เกี่ยวกับปรากฏการณ์ที่หาดูได้ยากแต่เราทุกคนสามารถสัมผัสปรากฏการณ์นี้ได้ ที่บ้านของตนเอง คือในเวลา 9:47 ดาวเคราะห์พลูโตจะโคจรไปอยู่ด้านหลังชั่วระยะเวลาหนึ่ง จนเป็นสาเหตุให้แรงดึงดูดของโลกถูกหักล้างชั่วคราว ทำให้โลกของเราไร้แรงดึงดูดและแรงโน้นถ่วงของโลกลดลง ซึ่งผู้ชมทางบ้านสามารถพิสูจน์ด้วนการกระโดดสูงๆ ในช่วงเวลาดังกล่าว

หลังจากออกข่าวนี้ มีผู้ชมทางบ้านหลายคนโทรถามปรากฏการณ์นี้เพียบ บางคนอ้างว่าตัวเองรู้สึกถึงการไร้แรงดึงดูดเลยไปเลย และผู้หญิงคนหนึ่งอ้าวว่าเพื่อน 11 คนของเธอลอยแบบไร้แรงดึงดูดไปรอบๆ ห้อง(เอ็งโกหกบ้าง ตรูก็โกหกบ้างสิ)


(อัตราความเชื่อ 8 ถ้ามีจริงๆ ก็ดีสิ)







อันดับ 11: ยูเอฟโอที่ลอนดอน(UFO Lands in London)


1989: วันที่ 31 มีนาคม 1989 ผู้คนที่กำลังขับรถยนต์ในทางด่วนของลอนดอน ต่างแตกตื่นเมื่อพบเห็นจานบินบนท้องฟ้าลึกลับลำหนึ่งรูปร่างเหมือนจาน ประหลาด และจานบินลำนั้นก็ร่อนลงพื้นๆ อย่างช้าๆ ท่ามกลางเหล่าตำรวจที่ถูกเรียกมารักษาความปลอดภัยเต็มท้องถนน เมื่อจานบินร่อนไปกับพื้น ตำรวจผู้กล้าคนหนึ่งได้เดินนำหน้าเพื่อเผชิญกับจานบินดังกล่าว และเมื่อประตูจานบินเปิดออกมา และมีร่างในชุดสีน้ำเงินลงมา ทุกคนต่างกริ๊ดๆ เป็นแถวๆ เพราะปรากฏว่าเป็นจานบินปลอมจ้า เนื่องจากจานบินที่ว่าเป็นเพียงบอลลูนที่ตกแต่งเหมือนจานบิน และคนที่เดินออกมาในชุดสีน้ำเงินก็เป็นผู้ชายธรรมด๊าธรรมดานามว่า Richard Branson อายุ 36 ปี โดยเขาเล่าว่าตอนแรกเขาจะร่อนจานบินล้อเล่นนี้ที่เมืองใน Hyde ในวันที่ 1 เมษายน แต่คำนวณพลาดไปหน่อย เพราะแรงลมไม่ดี เลยร่องลงแบบฉุกเฉินนี้แหละ

(อัตราความเชื่อ ไม่มี)


อันดับ 12: นกเพนกวินบินได้ (Flying Penguins)


2008: โลกตะลึง BBC ได้นำเอาภาพวีดีโอเหลือเชื่อที่มีคนเอากล้องไปถ่ายที่ขั้วโลกใต้มาแพร่ภาพ มันเป็นภาพวิวัฒนาการมหัศจรรย์ของนกเพนกวิน นั้นคือ "นกเพนกวินบินได้!!" โอ้พระเจ้าจอร์ด ฝูงนกเพนกวินหลายตัวใช้ปีกเล็กๆ ของมันบินราวกับฝูงเครื่องบิน ผู้รู้อธิบายอย่างมีหลักการว่า เป็นเพราะโลกร้อนนะ ทำให้อากาศขั้วโลกใต้แปรปรวน จนนกเพนกวินทนไม่ไหว มันเลยเร่งวิวัฒนาการตัวเองเพื่อบินได้ โดยมันจะบินอพยพลงไปในพื้นที่เขตร้อนหรือที่อบอุ่นกว่า เช่นอเมริกาใต้เป็นต้น

(อัตราความเชื่อ 6 โลกมันร้อนนี้)


อันดับ 13: ร่างที่พบในล็อกเนส (The Body of Nessie Found)


1972: 31 มีนาคม 1972 ทีมของนักสัตว์วิทยาจาก สวนสัตว์ Yorkshire's Flamingo Park กำลังตามล่าหาสัตว์ลึกลับที่ชื่อเนสซี จนกระทั้งค้นพบซากลึกลับของเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ที่ลอยอยู่ในทะเลสาบล็อค เนส พวกเขาแบกซากศพดังกล่าวเอาไปใส่รถตู้เพื่อนำไปตรวจสอบที่สวนสัตว์ แต่ระหว่างทางดันไปเจอตำรวจไล่หลัง เพราะตำรวจสงสัยว่ารถตู้คันนี้ใส่สิ่งผิดกฎหมาย และสั่งให้รถหยุดและตำรวจก็พูดกฎหมายว่าด้วยห้ามขนย้านสิ่งที่ไม่สามารถระบุ ได้จากทะเลสาปล็อกเนสปี 1933 ตำรวจทำการยึดซากดังกล่าวเอาไว้ และนำไปตรวจสอบที่อื่นและก็พบว่ามันเป็นซากศพของช้างน้ำธรรมดาเท่านั้น

วันต่อมาเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ John Shields ออกมารับสารภาพว่าเรื่องทั้งหมดเป็นฝีมือของเขาที่จะแกล้งเพื่อนร่วมงานใน วันเอพริลฟูล โดยการนำซากช้างน้ำที่ตายแล้วกว่าสัปดาห์จากสวนสัตว์อื่น ตัดหนวดและขนของมันเสีย ยัดก้อนหินให้ตัวหนักขึ้นและแช่แข็งเอาไว้เป็นสัปดาห์ เมื่อถึงเวลาก็หย่อนลงไปในทะเลสาป และโทรศัพท์ลึกลับปลอมแจ้งเหตุ แต่สิ่งที่ไม่ได้อยู่ในแผนก็คือดันไปเจอตำรวจระหว่างทางซะนี้

(อัตราความเชื่อ 0 เพราะตำรวจแท้ๆ เชียว ไม่งั้นเรื่องนี้จะฮ่ามากนะจะบอกให้)


อันดับ 14: เกี่ยวกับเวลา (Metric Time)


This Day Tonight รายการข่าวออสเตรเลียประกาศให้ทราบว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงระบบมาตรเวลาใหม่ โดยเปลี่ยนแปลงจากเดิมเป็น 100 วินาทีเท่ากับ 1 นาที. 100 นาทีเท่ากับ 1 ชั่วโมง และ 20 ชั่วโมงเท่ากับ 1 วัน นอกจากนี้ชื่อก็เปลี่ยนไปด้วย จากวินาทีกลายเป็นมิลลิเดย์ (millidays).นาทีเกลายเป็นเซนตริเดย์ (centridays), และชั่วโมงเกลายเป็นเดซิเดย์ (decidays) ราบการนี้มีการสัมภาษณ์กับนายกรัฐมนตรีด้วย รวมไปถึงการโชว์นาฬิกาแบบใหม่ที่มีหน้าปัด 10 ชั่วโมง ผลที่ตามมาคือคนหลายคนเชื่อซะด้วย

(อัตราความเชื่อ 8 ไม่มีข้อคิดเห็น.....)


อันดับ 15: การบินของผู้ชายคนหนึ่งโดยใช้พลังปอด(Man Flies By Own Lung Power)



1934: ในเมษายน 1934 หนังสือพิมพ์แห่งสหรัฐอเมริกาจำนวนมากมาย, รวมถึง The New York ได้ลงภาพชายคนหนึ่งที่บินขึ้นฟ้าด้วยอุปกรณ์ขับเคลิ้อรเฉพาะโดยใช้พลังลม หายใจ(เป่า)จากปอดของเขา หนังสือพิมพ์ได้สารยายสิ่งประดิษฐ์ใหม่อัศจรรย์นี้ว่า คนในภาพเป็นคนเยอรมันชื่อ Erich Kocher, ผู้สามารถเก็บลมหายใจใส่ในกล่องที่ติดกับหน้าอกซึ่งจะกระตุ้นให้เครื่องยนต์ ทำงานและยกตัวเขาลอยเหนือพื้นดินสิ่ง โดยอุปกรณ์นี้ประกอบด้วยเกียร์เร่งและครีบหาง และตั้งชื่อว่า "เครื่องยนต์พลังปอด" ภายหลังก็รู้ที่มาว่าเป็นการล่อเล่นในวันเทศกาลคนโง่ของคนเบอร์ลิน

(อัตราความเชื่อ 3 ใช้พลังตดจะน่าเชื่อกว่า)



อันดับ 16: ก้อนน้ำแข็งยักษ์ที่ซิดนีย์(The Sydney Iceberg)


1978: เรือท้องแบนขนส่งลำหนึ่งปรากฏตัวในท่าเรือซิดนีย์ ที่น่าสนใจคือมันลากภูเขาน้ำแข็งยักษ์มาด้วย โดนมหาเศรษฐีเงินล้านผู้รักการผจญภัย Smith (เป็นเจ้าของร้านอาหาร ) กล่าวว่าเขาลากเจ้าก้อนน้ำแข็งนี้มาจากทวีปแอนตาร์ติก โดยเขาจะเฉือนเจ้าก้อนน้ำแข็งนี้เป็นก้อนสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ขายให้แก่คนสนใจ ในราคา 10 เซ็นต์ โดยเขาอวดสรรพคุณว่าน้ำแข็งจากแอนตาร์ติกนะเป็นน้ำแข็งบริสุทธิ์, สด เวลาจะใส่ในเครื่องดื่มใดๆ จะทำให้รสชาติมันอร่อยขึ้น

แต่แล้วเรื่องความลับของน้ำแข็งยักษ์นี้ก็แตก เมื่อฝนตกลงมา ชะล้างเอาเศษโฟมและครีมโกนหนวดออกหมด ทกให้หลายคนรู้ว่าเจ้าน้ำแข็งก้อนนั้นคือขยะพลาสติกดีๆ นี่เอง

(อัตราความเชื่อ 8 เกือบจะซื้อแล้วสิ)


อันดับ 17: Bombs Away!



1915: เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องจริงนะครับ วันที่ 1 เมษายน 1915 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 นักขับเครื่องบินนาวาของฝรั่งเศสได้บินบนที่ตั้งค่ายทหารเยอรมันและหย่อน อะไรที่คล้ายๆ ระเบิดขนาดใหญ่ พวกทหารเยอรมันตกใจกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง แต่แล้วระเบิดก็ไม่ทำงานสักที ทหารเยอรมันเลยสงสัน ค่อยๆ มาใกล้ลูกระเบิดอย่างระมัดระวัง และทำการตรวจสอบก็พบว่ามันไม่ใช่ระเบิด แต่เป็นลูกฟุตบอลขนาดใหญ่ที่เขียนว่า "April fool!(เทศกาลคนโง่จ้า)"

(อัตราความเชื่อ ไม่มี)


อันดับ 18: แครอทพันธุ์ใหม่ (Whistling Carrots)



2002: โลกตะลึง!! ห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ประเทศอังกฤษนาม Tesco ได้จัดทำโฆษณาประกาศว่าพวกเขาได้ออกสินค้าใหม่ชื่อ 'Whistling Carrots' เป็นหัวผักกาดแดง(แครอทนั้นแหละ)ที่ดัดแปลงพันธุกรรมอย่างเสร็จสมบูรณ์แบบ โดยแครอทชนิดพิเศษนี้มีจุดเด่นคือภายในจะมีโพรงมากมาย เวลาเหล่าแม่บ้านนำแครอทไปทำอาหาร โพลงเหล่านั้นจะส่งเสียงหวีดๆ เหมือนเสียงผิวปาก เสมือนแครอทเหล่านี้ร้องเพลงนั้นเอง

(อัตราความเชื่อ 9 แหม....ปี 2002 อะไรก็เป็นไปได้นี้)







ขอบคุณข้อมูลจากเด็กดี

6 นิสัยดูแลสุขภาพ... แต่กลับพาให้ป่วย!

เชื่อไหมคะว่า กิจวัตรประจำวัน (บางอย่าง) ที่เราทำเพื่อให้สุขภาพร่างกายทั้งเราและลูกแข็งแรงนั้น อาจกลับส่งผลเสียต่อสุขภาพก็เป็นได้ นั่นคือ

1. ออกกำลังกายมากเกิน ร่างกายของเราไม่ต้องการการออกกำลังกายหนัก ๆ ถึง 3-4 วันต่ออาทิตย์ อาทิตย์ละ 30-45 นาทีค่ะ คุณอาจทำโยคะ เดิน ยกน้ำหนักบ้างเล็กน้อยสลับกับการว่ายน้ำ ตีกอล์ฟ และแอโรบิคบ้างก็ได้

2. อาบแดดรับวิตามิน จริงอยู่ร่างกายของเราต้องการวิตามินดี เพื่อช่วยให้กระดูกแข็งแรงและเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกาย หากคิดจะอาบแดดถ้าเกิน 20 นาทีขึ้นไป ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปทุกครั้ง เพราะไม่อย่างนั้นแทนที่จะได้รับวิตามิน อาจได้รับโรคมะเร็งผิวหนังแทนก็ได้

3. สบู่ ครีมอาบน้ำ กำจัดแบคทีเรีย ใช้บ่อยครั้งแทนที่จะฆ่าแบคทีเรียชนิดแย่ ๆ บางทีมันอาจฆ่าแบคทีเรียชนิดดีที่อาศัยบริเวณผิวหนังของพวกเราออกไปเสียจน หมดสิ้น จะให้ดีใช้สบู่ทั่ว ๆ ไปดีที่สุดค่ะ

4. นอน ๆ ๆ โดยเฉลี่ยพวกเราต้องการการนอนหลับ 8 ชั่วโมงต่อคืน แต่ถ้าคุณนอนน้อยหรือนอนมากกว่า 9 ชั่วโมงขึ้นไป ก็ไม่ดีต่อร่างกาย แถมยังส่งผลให้เราอ้วนหรือกินมากเกินความจำเป็น เกิดอาการสับสน และซึมเศร้าได้อีกด้วย

5. เปิดแอร์เย็น ๆ ตลอดวันคืน ในเครื่องปรับอากาศมีแบคทีเรียและเชื้อโรค รวมถึงฝุ่นผงต่าง ๆ อยู่มากมาย การใช้แอร์ทุกเวลาจึงเป็นการทำลายสุขภาพ ดังนั้น หันมาเปิดหน้าต่าง รับลมเย็น หรือเดินออกไปนั่งเล่นนอกบ้านเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ดีกว่าเยอะค่ะ นอกจากนี้ก็อย่าลืมหมั่นทำความสะอาดฟิลเตอร์เครื่องปรับอากาศด้วยน้ำอุ่นและ สบู่ พร้อมทั้งตากให้แห้งทุกครั้งก่อนใส่กลับเข้าที่ เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคนในครอบครัว

6. อาหารออร์แกนิกส์ จำพวกผัก ผลไม้ที่ (มัก) มีราคาสูง ซึ่งคุณมั่นใจนักหนาว่าปลอดภัยนั้น บางครั้งอาจมีสิ่งปนเปื้อน ยาฆ่าแมลง หรือพยาธิ มาทำลายสุขภาพอยู่ก็ได้ ดังนั้นอ่านฉลากข้างอาหารที่คุณซื้อทุกครั้ง แม้จะซื้อจากร้านอาหารเพื่อสุขภาพก็ตามนะคะ

แหล่งที่มา : Momypedia